ค้นหา
ไทย
  • English
  • 正體中文
  • 简体中文
  • Deutsch
  • Español
  • Français
  • Magyar
  • 日本語
  • 한국어
  • Монгол хэл
  • Âu Lạc
  • български
  • Bahasa Melayu
  • فارسی
  • Português
  • Română
  • Bahasa Indonesia
  • ไทย
  • العربية
  • Čeština
  • ਪੰਜਾਬੀ
  • Русский
  • తెలుగు లిపి
  • हिन्दी
  • Polski
  • Italiano
  • Wikang Tagalog
  • Українська Мова
  • อื่น ๆ
  • English
  • 正體中文
  • 简体中文
  • Deutsch
  • Español
  • Français
  • Magyar
  • 日本語
  • 한국어
  • Монгол хэл
  • Âu Lạc
  • български
  • Bahasa Melayu
  • فارسی
  • Português
  • Română
  • Bahasa Indonesia
  • ไทย
  • العربية
  • Čeština
  • ਪੰਜਾਬੀ
  • Русский
  • తెలుగు లిపి
  • हिन्दी
  • Polski
  • Italiano
  • Wikang Tagalog
  • Українська Мова
  • อื่น ๆ
ชื่อ
การถอดเสียง
ต่อไป
 

ความรักและปัญญาของท่านอาจารย์ ในทุกการพบปะ ตอนที่ 10 ของ 12

รายละเอียด
ดาวน์โหลด Docx
อ่านเพิ่มเติม
คุณพอใจหรือยัง หากไม่ คุณสามารถถามอีกได้ (ขอบพระคุณค่ะ) โอเค ไม่เป็นไร เอาล่ะ...ฉันจะบอกคุณอีกเรื่องหนึ่ง เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจดีขึ้น เช่น โลกของเราในอดีต มีความล้าหลังมากไม่ใช่หรือ? เราใช้ชีวิตอยู่ในถ้ำและกินเนื้อดิบ (ชาวสัตว์) เป็นต้น เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่า จะจุดไฟอย่างไร เราไม่มีเครื่องมือใด ๆ เลย และแล้วค่อย ๆ มี อาจารย์ผู้รู้แจ้งมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่มายังโลกนี้ ก่อนพระเยซูคริสต์ มีอาจารย์ ผู้รู้แจ้งมากมาย ก่อนพระศากยมุนีพุทธเจ้า ก็มีอาจารย์ที่รู้แจ้ง หลายพระองค์ พวกท่าน มาทีละองค์อย่างค่อยเป็นค่อยไป แม้ว่าพวกท่านจะไม่ได้ เดินทางไปทั่วโลก เพื่อพูดคุยกับทุกคน แต่ที่ใดก็ตามที่พวกท่านพูด โลกทั้งใบก็จะสั่นสะเทือน... การสั่นสะเทือนนั้นจะแผ่ขยายออกไป เพราะเหตุนี้ ทั้งโลกจึงได้รับรู้ นั่นคือวิธีที่โลกของเรา ยังคงพัฒนาต่อไปมากขึ้นเรื่อย ๆ คุณเห็นแล้วใช่ไหม โลกของเราในปัจจุบัน มีความสวยงาม และสะดวกสบายมากกว่า เมื่อสองสามพันปีก่อนมาก โอเค

ตอนนี้อย่าถามฉันเลยว่า: "ท่านอาจารย์กำลังพูด เรื่องไร้สาระอะไรกัน? คนโซมาเลียจะได้ยินสิ่งที่ ท่านพูดที่นี่ได้อย่างไร?” ถ้าฉันใช้โทรศัพท์ คุยกับคุณที่นี่ คุณจะได้ยินฉันไหม? คุณได้ยินฉัน ที่ไต้หวัน (ฟอร์โมซา) ไหม? ใช่! โอเค โทรศัพท์คืออะไร มันเป็นเครื่องมือทางวัตถุชนิดหนึ่ง ที่พิสูจน์ว่าเมื่อฉันพูดที่นี่ คุณก็ได้ยินที่นั่นเช่นกัน ถ้าไม่มีโทรศัพท์ ก็คงไม่ได้ยิน ฉันกำลังพูดอยู่ที่นี่ และคุณสามารถได้ยินฉัน ที่ไต้หวัน (ฟอร์โมซา) โชคดีที่ตอนนี้เรา มีโทรศัพท์แล้ว ตอนนี้คุณเข้าใจแล้ว คุณไม่สามารถพูดได้ว่าชาวโซมาเลีย ไม่ได้ยินฉัน จิตวิญญาณของเรา ไม่จำเป็นต้องมีโทรศัพท์ โทรศัพท์เครื่องนี้แสดงให้เห็นว่า ทั้งโลกสามารถได้ยินฉัน และยังมีดาวเทียมด้วย เมื่อชาวอเมริกันไปดวงจันทร์ เราสามารถติดต่อ กับพวกเขาได้จากที่นี่ เพราะเครื่องมือนั้น คุณรู้ว่าเขาสามารถได้ยินเรา ทำไมเป็นอย่างนั้น เพราะเสียงของเรานี้ สามารถสั่นสะเทือน ไปทั่วทั้งจักรวาล! ฉะนั้นกาย วาจา ใจ ของเรา จึงต้องสะอาด บริสุทธิ์ สวยงามอย่างมาก เพราะเหตุนี้เราจึงบอกคุณ ให้รักษาศีล คือ ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่กินเนื้อ (ชาวสัตว์) เพราะเราเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่ว่าเราจะทำอะไร จักรวาลทั้งหมดก็สามารถมองเห็นได้

โอเค เพียงดูที่โทรศัพท์ คุณก็จะรู้ คุณได้ยินเสียงของฉันจากที่นั่นได้ ทำไม? มันไม่ใช่เพราะสายเคเบิล เพราะเสียงของฉัน สามารถถูกส่งไปที่นั่นได้ สายเคเบิลเป็นเพียงเครื่องมือ ที่ใช้ส่งสัญญาณเท่านั้น มันสามารถถ่ายทอดเข้าสู่หูของคุณ มิฉะนั้น สายเคเบิลเพียงไม่กี่เส้น สามารถให้คนได้ยินได้ เพียงห้าหรือหกคนเท่านั้น เช่นเดียวกับโทรทัศน์ หรือสถานีโทรทัศน์ หรือวิทยุ ที่ผู้คนนับล้าน หรือแม้กระทั่ง พันล้านคนสามารถได้ยินและรับชม นั่นแสดงให้เห็นว่า สิ่งที่ฉันพูดนั้นถูกต้อง โซมาเลีย รัสเซีย ทุกหนแห่ง สามารถได้ยินสิ่งที่ฉันกำลังพูดที่นี่ มันคือจิตวิญญาณของพวกเขาที่ฟัง ไม่ใช่แค่หูของพวกเขาเท่านั้น เอาล่ะ ถ้าเราต้องการ ขยายเสียงให้จิตใจของพวกเขา ได้ยิน ให้หูของพวกเขา ได้ยินอย่างชัดเจน เราก็ต้องใช้โทรทัศน์หรือโทรศัพท์ ไม่เช่นนั้น เสียงนั้นก็มีอยู่แล้ว ตั้งแต่แรก ไม่งั้นโทรศัพท์ จะบันทึกเสียงฉันได้ยังไง? แล้วข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ มันเพียงพอแล้ว? มีคำถามเพิ่มเติมไหม? ใช่ นั่นก็ดี

(ท่านอาจารย์คะ ฉันขอถามอีก คำถามหนึ่งได้ไหมคะ?) แน่นอน คุณชาวจีน มีคำถามมากมาย คนจีนเป็นผู้เชี่ยวชาญในการถาม ถามได้ โอเค (เท่าที่ฉันทราบ เกี่ยวกับพุทธศาสนา ไม่มีคำว่า “จิตวิญญาณ” ในพุทธศาสนา) ทำไมต้องใช้คำว่า "จิตวิญญาณ"? ไม่เป็นไร ถ้าคุณไม่อยากใช้มัน (ใช่ค่ะ ในศาสนาคริสต์ มักใช้คำว่า “จิตวิญญาณ” แล้ว... (พวกเขาใช้คำว่า “จิตวิญญาณ” ค่ะ)

(จากมุมมองของท่าน จากสิ่งที่ท่านเชื่อ ไม่มีความแตกต่าง ระหว่างศาสนาพุทธ กับศาสนาคริสต์หรือคะ?) ไม่มีความแตกต่าง สมมติว่าคุณเรียกแก้วนั้นว่า "ชุ่ย" และฉันเรียกว่า "น้ำ" โอเคไหม? แน่นอนว่า คุณคุ้นเคยกับการเรียกมันว่า "ชุ่ย" ในภาษาจีน (แต่ความเชื่อทางศาสนา ก็ต่างกันมากนะคะ) เหมือนกัน เหมือนกัน (เพราะในศาสนาคริสต์ พวกเขาพูดว่า…) ฉันจะบอกคุณ คุณคิดแบบนั้น เพราะคุณไม่ได้เรียนภาษาสันสกฤต ในพระพุทธศาสนา มันเขียนใน ภาษาสันสกฤตว่า “อาตมะ” “อาตมะ” แปลว่า จิตวิญญาณ ในภาษาจีนแปลว่า "จิตวิญญาณ" เข้าใจมั้ย? อาตมะ (ความตระหนักรู้ทางจิตวิญญาณ) จิตวิญญาณ ไม่ ไม่ใช่ "การตระหนักรู้ทางจิตวิญญาณ" เหตุนี้เขาจึงเขียนว่า “มหาตมะ” แปลว่า “จิตวิญญาณที่ยิ่งใหญ่”

(ในศาสนาคริสต์ มีคำกล่าวว่า คุณต้องพึ่งพาพระเจ้า จึงจะรอดได้) ใช่ (ไม่ใช่อย่างนั้นเหรอคะ?) ใช่ (แต่ในพระพุทธศาสนา อย่างที่ท่านว่าไว้เมื่อกี้นี้ว่า เราต้องพึ่งกำลังของตนเอง) “พลังของตัวคุณเอง” ก็คือ ตัวคุณเอง ซึ่งก็คือพระเจ้า พระเจ้าเป็น...ของเราเอง ธรรมชาติดั้งเดิมของเรา เรามาจากพระเจ้า (ใช่ค่ะ แต่ในศาสนาคริสต์ ก็มีพิธีกรรมหลายอย่าง) แน่นอน... (ดังนั้นเราจึงต้องบูชาและอธิษฐาน) ใช่ (ต้องสวดอธิษฐาน) ใช่ (ดังนั้นจึงเป็นการพึ่งพา อำนาจภายนอกอย่างแท้จริง เพราะมันเป็นความสัมพันธ์ ระหว่างเจ้านายและคนรับใช้) ฉันรู้ว่าคุณหมายถึงอะไร อย่างนั้น ฉันขอถามคุณว่า: อาจารย์ทางพุทธของคุณ สอนให้คุณบูชาพระพุทธเจ้า ที่วัดด้วย ไม่ใช่หรือ? เหมือนกัน คุณบูชาพระพุทธเจ้า และขอพร ทั้งสองอย่างนั้นผิด

คุณควรจะอธิษฐานกับตัวเอง คุณไม่จำเป็นต้องไปวัด หรือโบสถ์ แต่ตอนนี้ คุณบังคับให้ฉันพูด พวกเขากลับดุฉันและบอกว่า ฉันเป็นพวกนอกรีต! แล้วพวกเขาจะหาว่า ฉันพูดผิด ที่จริงแล้ว พระศากยมุนีพุทธเจ้า ไม่ได้ไปวัดเพื่อที่จะเป็น พระพุทธเจ้า และพระเยซูคริสต์ [เจ้า] ก็ไม่ได้สร้างโบสถ์ เพื่อที่จะสื่อสารกับพระเจ้า หลังจากที่พวกท่านเสียชีวิต ผู้คนได้สร้าง ห้องรำลึกเหล่านั้นขึ้น และทุกคนก็มา รวมตัวกันตลอดทั้งวัน... แล้วก็มีพิธีกรรม และการสวดมนต์เพิ่มมากขึ้น ความจริงก็คือเมื่อพระเยซูคริสต์[เจ้า] ยังทรงมีชีวิตอยู่ พระองค์ไม่ได้ทำสิ่งเหล่านั้น พระศากยมุนีพุทธเจ้า ตามพระสูตรที่ฉันได้อ่าน ไม่ได้บอกให้เราบูชาพระองค์ หรือเผาเครื่องหอมใด ๆ ไม่ เราเองที่สร้างสิ่งเหล่านั้นขึ้นมา

(ท่านอาจารย์คะ ฉันเห็นด้วยกับท่านในเรื่องนั้นค่ะ เพราะฉันเองก็ไม่บูชาอะไรค่ะ) อ้า! เยี่ยมเลย แล้วมาสร้างปัญหาให้ฉันทำไมล่ะ? (เพราะฉันไม่ได้ ขอสิ่งมงคลตอบแทน) ยอดเยี่ยมมาก คุณยอดเยี่ยม! เธอรู้แจ้งแล้ว แต่เธอยังคงถามคำถามโง่ ๆ กับฉันอีก แต่ฉันรู้ว่าคุณกำลังถาม เพื่อประโยชน์ของคนอื่น ใช่มั้ย? ใช่ (เพราะฉันคิดว่า เหตุผลสำคัญที่สุดที่เราอยากรู้แจ้ง ก็คือความหวัง ที่จะหลุดพ้นจากทะเล แห่งความทุกข์ วัฏจักรแห่งการเกิดและการตาย) ใช่ ๆ ๆ (การขอสิ่งของจึงไม่ใช่สิ่ง ที่เป็นศรัทธาชั่วนิรันดร์) ใช่ แค่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ นอกจากนี้ เพื่อที่จะได้รับรางวัลนั้น คุณจะต้อง กลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง ไม่ใช่เหรอ? ใช่ ตอนนี้คุณเข้าใจทุกอย่างแล้ว (ไม่หรอกค่ะ ฉันคิดว่า ฉันอาจจะได้ยินสิ่งที่ดีกว่า จากท่านอาจารย์ก็ได้) ใช่ สิ่งที่ดีกว่า คือสิ่งที่คุณเพิ่งพูดไป การหลุดพ้น จากทะเลแห่งความทุกข์ หากคุณต้องการสิ่งนี้ เราก็ต้อง... ไม่มีวิธีอื่นใดอีกแล้วนอกจากการ ตระหนักถึงธรรมชาติดั้งเดิมของเรา

(แล้วเราจะมองคำว่า “การสละ” อย่างไรดีคะ?) อะไรเหรอที่รัก? (การสละ ค่ะ – การมองเห็นความทุกข์ และการละทิ้งความทุกข์ค่ะ (มันคือความเบื่อหน่าย และละทิ้งโลกนี้ไปค่ะ) หลังจากที่เรารู้แจ้งแล้ว เราจะไม่เกลียดโลก แต่เราจะไม่ผูกพันกับมันด้วย เราจะวางตัวเป็นกลาง เราทำสิ่งที่เราควรทำ เมื่อเราหิว เราก็กิน เมื่อเราเหนื่อย เราก็นอน ถ้าเราไม่มีเงิน เราก็ไปหาเงินมา แต่ภายใน เรามีสิ่งอื่น อีกอย่างหนึ่ง ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับเงิน การนอน การกิน หรือลูก สามี ภรรยา ญาติพี่น้อง หรือเพื่อนเลย นั่นคือสิ่งที่เราต้องการ เรามีสิ่งนั้นอยู่กับเรา ชีวิตแล้วชีวิตเล่า เรามีมันมาตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว ซึ่งก็คือตัวตน ที่แท้จริงของเรา ได้รับการปลดปล่อยโดยสมบูรณ์ และเรารู้ชัดเจนว่า เราไม่ต้องการอะไรเลย ใช่ เมื่อเราพบมันแล้ว เราก็หลุดพ้น จากทะเลแห่งความทุกข์ ที่จริงแล้ว เราได้รับ การปลดปล่อยตั้งแต่แรกแล้ว ฉันรู้ว่าคุณเข้าใจเรื่องนั้น ไม่เป็นไร

(ถ้าเราไม่มี ความเกี่ยวข้องใด ๆ กับพ่อแม่ ภรรยา สามี หรือลูก ๆ และคนอื่น ๆ เลย นั่นหมายความว่าใจเราคงจะเป็นใจ ที่โดดเดี่ยวใช่หรือไม่คะ?) ไม่! ฉันกำลังพูดถึง ตัวตนที่แท้จริงของคุณ ไม่ใช่เกี่ยวกับอารมณ์ และความสัมพันธ์ของคุณ คุณยังคงรักพ่อแม่ของคุณ เหมือนเดิม นั่นคืออารมณ์ ส่วนหนึ่งของตัวคุณนั้นแตกต่าง จากตัวตนที่แท้จริงของคุณ เข้าใจที่ฉันหมายถึงไหม? ตัวตนที่แท้จริงรวมทุกสิ่งทุกอย่าง สิ่งที่ฉันหมายถึงก็คือ หลังจากค้นพบตัวตน ที่แท้จริงของคุณแล้ว แม้ว่าจะไม่มีพ่อแม่ ไม่มีเงิน หรือความสัมพันธ์ใด ๆ ก็ตาม คุณก็จะไม่สูญเสียมันไป คุณก็ยังคงมีความสุข คุณยังคงเข้าใจ และรู้ว่าคุณเป็นใครจริง ๆ นั่นคือสิ่งที่ฉันหมายถึง ฉันไม่ได้บอกว่าหลังจากรู้แจ้งแล้ว คุณจะตัดความสัมพันธ์ ทั้งหมดนะ ไม่นะ! ทำไมเป็นอย่างนั้นล่ะ ผู้คนที่นี่ ก็ยังแต่งงานมีลูกกันอยู่

สิ่งที่ฉันหมายถึงก็คือ ตัวตนอยู่เหนือทุกสิ่งที่เรามี เหนือขอบเขตทั้งหมด เหนือคุณสมบัติทางวัตถุทั้งหมด เหนือความสัมพันธ์ทั้งหมดในโลก ฉะนั้นแม้คนหนึ่ง ไม่มีแฟน ไม่ได้แต่งงาน ไม่มีลูก ก็ยังมีความรู้แจ้ง และมีความสุขอยู่ดี เราไม่จำเป็นต้อง พึ่งพาทรัพย์สมบัติ บุตร หรือสามีหรือภรรยา เพื่อมีความสุข นั่นคือสิ่งที่ฉันหมายถึง การมีความสัมพันธ์ก็เป็นเรื่องปกติ ฉันไม่ได้หมายความว่า หลังจากการรู้แจ้ง คุณจะตัดขาดทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่งั้นคุณจะทำอย่างไร กับชีวิตคุณ? ฉันคิดว่าคุณเข้าใจดีขึ้น และลึกซึ้งมากขึ้น

(แล้วท่านอาจารย์มีความคิดเห็น อย่างไรเกี่ยวกับความสัมพันธ์ ทางกรรมกับสรรพสัตว์คะ?) มุมมองของฉันเกี่ยวกับสรรพชีวิตหรือ (ความผูกพันกับสรรพสัตว์ค่ะ) คุณหมายความว่าอย่างไร? (ความผูกพันกับสรรพสัตว์ทั้งหลายค่ะ บุญสัมพันธ์ ความสัมพันธ์ระหว่างผู้คน) คุณหมายถึงความสัมพันธ์ของฉัน กับพวกเขา หรือกับตัวตน ที่แท้จริงของพวกเขาใช่ไหม? (ท่านมีความคิดเห็นอย่างไร เกี่ยวกับบุญสัมพันธ์ ระหว่างผู้คนในโลกนี้?) (ฉันหมายถึงความสัมพันธ์ของฉัน กับพ่อของฉันค่ะ) ฉันเข้าใจ (บุญสัมพันธ์ของฉันกับแม่ของฉัน หรือกับท่านอาจารย์ ความสัมพันธ์ของฉัน กับเพื่อนร่วมชั้น และเพื่อนของฉัน) เรื่องนี้ทุกคนก็รู้อยู่แล้ว มันเกี่ยวกับกรรม จากชาติก่อน ๆ... (อิทธิพลกรรม) ใช่ ๆ ๆ ชีวิตที่ผ่านมา เช่นในอดีตคุณทั้งสอง ต่างใส่ใจกันมาก หรือ... แม้ว่าคุณจะเป็น แค่เพื่อนสนิท ที่คอยช่วยเหลือ และดูแลกันดีมากก็ตาม ชาติหน้าอาจจะกลับมาเกิด เป็นพ่อ เป็นแม่ เป็นลูก แม่เป็นลูก หรือสามีเป็นภรรยาก็ได้ อะไรนะ? (แล้วนี่คือสิ่งที่เรียกว่า กรรมสะสมใช่ไหมคะ?) ใช่ ๆ ๆ กรรมสะสม แล้วก็ยืดเยื้อต่อไป (มันเป็นไปตามสัญชาตญาณของคุณ และกองรวมกัน) ใช่ ๆ ๆ แต่มันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับ ธรรมชาติที่แท้จริงของเราเลย (ใช่ค่ะ ท่านอาจารย์) ไม่มากขนาดนั้น

(กรรมเกี่ยวอะไรกับใจเราด้วยเหรอคะ ไม่เกี่ยวใช่ไหมคะ?) ฉันหมายถึงธรรมชาติที่แท้จริงของเรา (หัวใจที่แท้จริง) แต่เดิม มันไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งใดเลย เพราะมันเกี่ยวข้อง กับจักรวาลทั้งหมด เดิมที เราอยู่คนเดียว แล้วฉันก็มีพ่อ มีแม่... แต่เดิม เราทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกัน หลังจากร่วงหล่นสู่โลกแห่งมายา นี้แล้ว เรากลายเป็นปัจเจกบุคคล โดยแต่ละคน จะมีชื่อและครอบครัวของตัวเอง ตั้งแต่เด็ก ๆ ผู้คน รู้จัก “นางหวาง” คุณเกิดมาแล้วเติบโตขึ้น แล้วคุณก็ถูกจำกัด อยู่ในสถานการณ์บางอย่าง และคุณก็รู้จักตัวเองในแบบนั้น

(แล้วถ้าเราไม่ละทิ้งบุญสัมพันธ์ เหล่านี้กับสรรพสัตว์ เราจะยังเวียนว่าย อยู่ในทะเลแห่งทุกข์แห่งการเกิด และการตายต่อไปหรือคะ?) แน่นอน แน่นอน เพราะฉะนั้น เราต้องรู้แจ้ง เราต้องมองเห็นมัน ว่าเราเป็นหนึ่งเดียว เรามิใช่กายนี้ เพราะฉะนั้น เราจึงจำเป็นต้องรู้แจ้ง และตระหนักถึงตัวตน ที่ยิ่งใหญ่ของเราเอง ธรรมชาติของตัวตนของเรา ที่เป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล มันเป็นความรับผิดชอบของฉัน

(แล้วเรื่องบุญสัมพันธ์กับผู้อื่น ท่านคิดว่า เราควรสร้างบุญสัมพันธ์ กับผู้อื่นอีกหรือไม่คะ?) มันถูกสร้างขึ้นแล้ว ทำไมคุณถึงพูดว่าเรา "ควร"? ไม่ว่าเราไปที่ไหน เราก็ สร้างบุญสัมพันธ์โดยธรรมชาติเสมอ เช่น เมื่อคุณเกิดมาในโลกนี้ ไม่ว่าคุณจะ ต้องการทำอะไรก็ตาม คุณจะต้องมีพ่อแม่แน่นอน เหมือนฉัน เหมือนพระศากยมุนีพุทธเจ้า เหมือนใคร ๆ ก็ตาม ไม่ว่าเราจะต้องการหรือไม่ก็ตาม การมายังโลกแห่งมายานี้ เพื่อเล่นละครเรื่องนี้ เกมนี้ มีบุญสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงกันอยู่ แต่การมีบุญสัมพันธ์เช่นนี้ ก็เหมือนกับไม่มีบุญสัมพันธ์เลย

สำหรับผู้รู้แจ้งแล้ว การมีหรือไม่มีบุญสัมพันธ์กัน เป็นเรื่องเดียวกัน ส่วนผู้ที่ยังไม่รู้แจ้ง เขามีแต่บิดา และมารดาเท่านั้น ถ้าไม่มีพวกเขา เขาคงตาย ถ้าไม่มีคนรัก เขาคงร้องไห้จนตาย หรือไม่ก็ฆ่าตัวตาย สำหรับผู้รู้แจ้งแล้ว มีและไม่มี ก็เหมือนกัน ถ้ามีบุญสัมพันธ์กัน ก็แค่เล่นบทบาทของคุณ ในละคร แค่บทบาทเท่านั้น มันไม่ง่ายเลยที่จะอธิบาย เมื่อฉันอธิบายให้คุณฟัง ฉันเข้าใจดี แต่ฉันกลัวว่าคุณจะไม่เข้าใจ ฉันเข้าใจมันดีมาก และรู้ว่าฉันกำลังพูดถึงอะไร ฉันเห็นมันได้ชัดเจนมาก

Photo Caption: การเติบโตในสถานการณ์ที่ท้าทาย ทำให้แข็งแกร่งขึ้น

ดาวน์โหลดรูปภาพ   

รับชมเพิ่มเติม
ทุกตอน (10/12)
รับชมเพิ่มเติม
วีดีโอล่าสุด
ข่าวเด่น
2025-08-08
526 รับชม
ระหว่างอาจารย์และลูกศิษย์
2025-08-08
429 รับชม
37:45

ข่าวเด่น

1 รับชม
ข่าวเด่น
2025-08-07
1 รับชม
โชว์
2025-08-07
1 รับชม
ระหว่างอาจารย์และลูกศิษย์
2025-08-07
794 รับชม
แบ่งปัน
แบ่งปันไปที่
ฝัง
เริ่มที่
ดาวน์โหลด
โทรศัพท์มือถือ
โทรศัพท์มือถือ
ไอโฟน
แอนดรอยด์
รับชมในบราวเซอร์ในโทรศัพท์มือถือ
GO
GO
Prompt
OK
แอพ
สแกนโค้ดคิวอาร์ เลือกระบบโทรศัพท์ที่ถูกต้อง เพื่อดาวโหลด
ไอโฟน
แอนดรอยด์