รายละเอียด
ดาวน์โหลด Docx
อ่านเพิ่มเติม
คนระดับที่สาม บนพื้นผิวดวงจันทร์นั้น แตกต่างจาก มนุษย์ระดับที่สาม และพวกเขามีความเสถียรมากกว่า ในระดับความถี่ของตน แต่พวกมนุษย์ที่ไป ถึงระดับที่สามอาจจะ โคลงเคลงมาก บางครั้งพวกเขาอยู่ในสถานะที่สูงกว่า คือระดับที่สาม บางครั้งพวกเขาก็ลงไปต่ำกว่านั้น มันขึ้นอยู่กับอิทธิพลเชิงลบ รอบตัวพวกเขา บนโลกใบนี้ แต่บนดวงจันทร์ พวกเขาไม่มีอิทธิพล เชิงลบแบบนี้ พวกเขามันจึงเสถียรมากและ สูงขึ้นไปได้เรื่อย ๆ ตลอดเวลา และด้วยพรของอาจารย์บางท่าน พวกเขาไม่เคยหวั่นไหวเลย และพวกเขามีเสถียรภาพ ทางจิตใจมากกว่า นอกจากนี้พวกเขายังมี ความมั่นคงทางอารมณ์มากกว่า และยังมีพลังอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น พลังเวทมนตร์ พลังเวทมนตร์ที่บริสุทธิ์ ไม่เหมือนเวทมนตร์ดวงดาว ดังนั้นมันจึงแตกต่างเล็กน้อย จากระดับที่สาม ที่มนุษย์เข้าถึง พวกเขามีข้อได้เปรียบมากมาย ในการไปถึงระดับที่สูงขึ้นในอนาคต และพวกเขาก็จะทำเช่นนั้น แต่บางครั้งมนุษย์ ก็ไปถึงระดับกลาง ๆ อย่าง ระดับกลางของระดับที่สาม แต่ละระดับมีระดับต่ำกว่า ระดับกลางและระดับสูง แต่มนุษย์ แม้ว่าพวกเขาจะสามารถไปถึง ระดับกลางของระดับที่สามได้ เช่น โดยพระคุณของอาจารย์ที่ พวกเขาเชื่อและปฏิบัติตาม ภายใต้พวกท่าน แต่พวกเขา อาจสูญเสีย พวกเขาอาจ สูญเสียมันไป และพวกเขา อาจกลับไปสู่ระดับที่สาม ที่ต่ำกว่า หรือบางครั้ง ถึงกับลื่นไถลลงไปอีกโดย ความคิดแก้แค้นที่แตกแยกกัน ความอิจฉาริษยา หรือ ความปั่นป่วนเชิงลบภายในจิตใจ ของพวกเขา พวกเขาอาจสูญเสีย พวกเขาสามารถลงไปต่ำกว่านั้น ได้อย่างรวดเร็วมาก ขึ้นก็ยาก ลงก็เร็วมาก ดังนั้น ฉันจึงอยาก เตือนสติพวกคุณทุกคนให้ รักษาความบริสุทธิ์ของตนเอง คิดบวกไว้เสมอ อย่ามีความเกลียดชัง หรือความพยาบาท หากคุณมีสิ่งเหล่านี้ ให้รีบสำนึกผิดและทำสมาธิมากขึ้น เพื่อลบมันออกไป และรักษาระดับให้มั่นคง เมื่อคนอื่นดุคุณหรือ เกลียดคุณหรือทำสิ่งที่ เป็นอันตรายต่อคุณ ไม่ใช่ เรื่องเลวร้ายสำหรับคุณ มันกำลังเอากรรมของคุณออกไป และกรรมนั้นจะตกอยู่ กับคนที่เกลียดคุณ คนที่ดุคุณ หรือคนที่ใส่ร้ายคุณ ในเอาหลัก (เวียดนาม) เรามี สำนวนที่พูดว่า "Thương người như thể thương thân, ghét người nhể thể vun phân cho người" ความหมายก็คือ หากคุณรักใครสักคน ก็เหมือนกับว่าคุณได้เพิ่มความรักให้ แก่ตัวเองให้เป็นประโยชน์แก่ตัวเราเอง และหากคุณเกลียดใครสักคน นั่น ก็เหมือนกับว่าคุณให้สารอาหาร แก่เขาเพื่อให้เขาดำรงชีวิต และเติบโต เหมือนกับว่าคุณให้ ปุ๋ยต้นไม้ ดังนั้นจงจำไว้ ผู้คนใส่ร้ายฉัน เกลียดฉัน หรือ เขียนไม่ดีหรือพูดไม่ดีเกี่ยวกับฉัน ฉันไม่เคยเกลียดพวกเขา ฉันไม่เคยรู้สึกกังวลหรืออะไรเลย ฉันแค่กังวลว่าการทำให้ ชื่อเสียงของฉันเสียหาย หรือทำสิ่งที่ไม่ดีต่อฉัน กรรมของพวกเขาจะหนักเกินไป ฉันไม่กังวลเกี่ยวกับตัวฉันเอง นอกจากนั้น ฉันยังกังวลว่า พวกเขาจะรวบรวมคนที่เชื่อใน ตัวพวกเขาเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และพลังด้านลบจากสิ่งนั้นจะ ทวีคูณและยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ และมันไม่ดีต่อดาวเคราะห์ และต่อมนุษย์โดยรวม ทั้งหมด ไม่ใช่เพราะฉัน เพราะคนที่คอย ใส่ร้ายฉัน ด่าฉัน หรือพูดจาไม่ดีเกี่ยวกับ ฉัน โอ้ พวกเขาเอา กรรมของโลกมากมายไปจากฉัน และในขณะนั้น เวลาใด หรือนาน แค่ไหนก็ตาม ฉันรู้สึกตัวเบา สบายขึ้น รู้สึกดีขึ้นมาก มันเป็นเพียงแค่ว่าฉันไม่สามารถ จะเพลิดเพลินไปกับสิ่ง เหล่านี้ต่อไปโดยไม่ต้องกังวล เรื่องมนุษย์และความปลอดภัย และความสงบสุขของโลกได้ ดังนั้น บางครั้งฉันจำเป็นต้อง ชี้แจงให้ผู้ประทับจิตของฉัน ทราบอย่างชัดเจน เพื่อให้จิตใจ ของพวกเขาแจ่มใส และไม่หวั่นไหว ในศรัทธา มิฉะนั้น พวกเขาอาจ ตกลงไปสู่ระดับที่ต่ำกว่าก็ได้ หรือหากพวกเขาอยู่ในระดับ ต่ำมากแล้ว พวกเขาจะ ถูกกระชากเข้าสู่ระบบพลังเชิงลบ และนั่นเป็นเรื่องไม่ดี สำหรับพวกเขา และมันจะใช้เวลานานมากใน การนำพวกเขาออกมาอีกครั้ง ถ้าฉันทำได้ – ขึ้นอยู่กับว่า พวกเขามีความเชื่อที่ร้ายแรงแค่ไหน เกี่ยวกับการใส่ร้ายหรือ การพูดจาไม่ดีเกี่ยวกับฉัน นั่นคือสิ่งเดียวที่ต้องกังวล เพราะทั้งหมดนั้น จะส่งผลกระทบต่อบรรยากาศ อันสงบสุขบนโลกของเรา และต่อผู้ประทับจิตเองด้วย มิฉะนั้น ฉันควรจะต้อง ขอบคุณทุกคนที่พูดจาไม่ดี เกี่ยวกับฉัน ใส่ร้ายฉัน ไม่ว่าจะ ด้วยการพูด การเขียน หรือในใจของพวกเขา พวกเขาเอากรรมของโลกมากมาย ออกไปจากฉัน ฉันจึงต้องขอบคุณพระเจ้าสำหรับเรื่องนั้น คุณเห็นมั้ย ดาวเคราะห์ที่ ชาวดวงจันทร์ชั้นในมาจาก เป็นดาวเคราะห์ที่ใหญ่ สวยงาม คล้ายคลึงกับดาวเคราะห์ของเราตอนนี้ แต่พลังด้านลบนั้น แข็งแกร่งมากจนพวกเขา ไปขยายพันธุ์ภายใน ดวงจันทร์และรวบรวม พลังทั้งหมดจาก ดาวเคราะห์เพื่อนบ้าน แล้วพวกเขาก็มาเพื่อกินและ ดูดซับทั้งดาวเคราะห์จาก อดีตชาวดวงจันทร์ ดังนั้นชาวดวงจันทร์ จำเป็นต้องหลบหนี ไม่ใช่ เพราะพวกเขาไม่แข็งแกร่งกว่า แต่พวกเขาไม่ชอบการต่อสู้ ไม่ชอบทำลาย สิ่งแวดล้อม ดาวเคราะห์ ไม่ชอบ ทำให้คนของพวกเขาต้องเสียชีวิต พวกเขาจึงต้องจากไป เพื่อสันติภาพ แล้วพวกเขาก็สามารถไปยัง ดวงจันทร์ได้ เนื่องจากดวงจันทร์ ข้างใน ในเวลานั้นว่างเปล่า ไม่มีดินแดนของมนุษย์ ดังนั้น พวกเขาจึงสามารถยึดครองได้ และพลังด้านลบในปัจจุบัน กำลังเพาะพันธุ์และรุกราน เข้ามายังโลกของเราและ ภายในโลกของเราด้วย ความตั้งใจเดียวกันกับพวกที่ รุกรานดวงจันทร์ในครั้งนั้น ดังนั้น หากเราไม่สู้กลับ ด้วยเครื่องมือวีแกน เราก็จะต้องสูญเสียโลกไป เพราะสิ่งมีชีวิตที่เป็นลบ สิ่งมีชีวิตที่เป็นลบเหล่านี้ ไม่มีร่างกาย พวกมันจึงไม่ได้ถูกเผา พวกมันจึงเผาโลกทั้งใบได้ และพวกมันยังดำรงชีวิตอยู่ได้ พวกมันต้องการเพียงเข้ายึดครอง และทำให้มนุษย์กลายเป็น ทาสที่แท้จริงของพวกมัน และถ้ามนุษย์ตาย พวกมันก็จะกักมนุษย์ ให้เป็นทาสต่อไป เหมือนกับในนรก พวกมันจะทำอะไรก็ได้ กับมนุษย์ มนุษย์จะสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง สิทธิทั้งหมด อำนาจทั้งหมด ความรู้ทั้งหมด และความทรงจำทั้งหมด เกี่ยวกับสถานที่ที่พวกเขามาจาก พวกเขาไม่สามารถกลับไปสู่สถานะ ดั้งเดิมของพวกเขาได้เลย ไม่ว่า พวกเขาจะอยู่ที่ไหน หรือว่า พวกเขาเคยเป็นใครในสวรรค์มาก่อน ดังนั้นจึงไม่ใช่แค่เรื่อง สถานที่สำหรับการอยู่อาศัยเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับคุณค่าทาง จิตวิญญาณและศักดิ์ศรีในฐานะ มนุษย์ในฐานะบุตรของพระเจ้าด้วย พระเจ้าจึงต้องลงมา ช่วยเราโดยใช้ เครื่องมือทางกายภาพ เช่น ร่างกายของฉัน เพราะในช่วงเวลาแห่งการสิ้นสุดนี้ ไม่มีอาจารย์คนใดเพียงผู้เดียว แม้แต่พระบุตรของพระเจ้า ก็ ไม่อาจดูแลเรื่องทั้งหมดนี้ด้วย พระองค์เองหรือด้วยพระองค์เองได้ แต่เราต้องขอบคุณพระเจ้าผู้ทรงฤทธา นุภาพสำหรับความเมตตาของพระองค์ที่ ทรงช่วยเหลือเราในยามที่เดือดร้อน เรายังมีความหวังที่จะช่วยโลก ของเรา ช่วยโลกนี้ไว้ได้ หากมนุษย์สวมเกราะป้องกัน เพื่อต่อสู้กับพลังด้านลบ เรากำลังชนะ เรากำลังชนะ แต่ยังไม่สมบูรณ์ เรากำลังชนะแล้ว เรามีสันติภาพในบางประเทศ เช่น ซีเรียและเยเมน แต่เรายังต้องสู้ กันต่อไป โอเคนะ? เพราะหากพลังด้านลบเข้าครอบงำ สถานที่แห่งนี้ มนุษย์ทุกคนจะ กลายเป็นทาสและถูกกินไปหมด ทั้งเป็น ไม่ว่าจะเป็นพลังงาน ของมนุษย์ แก่นแท้ของมนุษย์ หรือแม้กระทั่งเนื้อหนังของมนุษย์ เมื่อใดก็ตามซึ่งพลังด้านลบ ต้องการหรือปรารถนาสิ่งนั้น และมนุษย์บนโลกนี้ก็ไม่ได้ ทรงพลังเท่ากับสิ่งมีชีวิตที่อาศัย อยู่ภายในพระอาทิตย์ในปัจจุบัน คุณจะเห็นว่าพวกเขาอยู่ ที่ระดับที่สี่ และ พวกเขามีพลังและความสามารถ เวทมนตร์ทุกประเภท พวกเขาสามารถแม้กระทั่ง เสกอาวุธเพื่อต่อต้านพลัง เชิงลบที่กำลังรุกราน ดาวเคราะห์ของพวกเขาได้ พวกเขาอาจจะหายตัวไป สมมุติว่าเราสามารถทำได้ – นั่นเป็นโอกาสน้อยมาก – แต่สมมุติว่ามนุษย์คนใดคนหนึ่ง สามารถเข้าไปในพระจันทร์หรือ พระอาทิตย์ และต้องการยึดครอง สถานที่ของพวกเขา ทำลายพวกเขา หรือกดขี่พวกเขา หรืออะไร – เราทำไม่ได้ คุณจะไม่เห็นพวกเขา ถ้าพวกเขาไม่อยากให้คุณเห็น พวกเขาก็แค่หายตัวไปเฉย ๆ คุณจึงไม่เห็น กายเนื้อ แต่พวกเขาอยู่ในร่างกายภาพ พวกเขาเพียงแต่ ชอบที่จะเป็นแบบนั้น แค่ถ้าพวกเขาต้องทำ ถ้าพวกเขาตกอยู่ในอันตราย พวกเขาจะหายตัวไปเฉย ๆ ตอนนี้เราก็ต้องการพวกเขาเช่นกัน พวกเขายังดูแลดาวเคราะห์ ของเราด้วยเช่นกัน แน่นอนว่าไม่ต้องพูดถึงด้าน จิตวิญญาณที่มองไม่เห็น: พวกเขาให้ความอบอุ่นแก่เรา หากไม่มีพระอาทิตย์ ฉันไม่ทราบ ว่าสิ่งใดจะเติบโตได้หรือไม่ หรือมนุษย์จะสามารถ มีอายุยืนยาวและมีสุขภาพกายและ ใจที่สมบูรณ์แข็งแรงได้หรือไม่ ฉะนั้น เราจึงเป็นหนี้บุญคุณ พระอาทิตย์อย่างมหาศาล – หนี้บุญคุณมหาศาล – ไม่ต้องพูดถึง อาจารย์ท่านอื่น ๆ ที่ดำรงชีวิตอยู่ ในภาวะแห่งการตรัสรู้อันสูงสุด พวกเขากำลังอวยพรโลกของเรา มันเป็นเพียงกรรมของเราที่หนักเกินไป หนักเกินไป หนักเกินไป เราก็ปกคลุมตัวเราไว้ด้วยมัน พระพรมากมาย ไม่สามารถส่งถึงได้ เพราะเหตุนี้มนุษย์จึงไม่รู้สึกถึง ความรักของเหล่าอาจารย์ ของพระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพ ของพระบุตรของพระเจ้า ของอาจารย์ผู้สูงสุด เป็นต้น Photo Caption: ใคร ๆ ก็สามารถเป็นคนพิเศษได้ แค่รักพระเจ้า!
